สวนกล้วยไม้แนวตั้งเชิงธุรกิจอัจฉริยะ แม่โจ้
Smart vertical orchid garden management by  Intelligenete system : SVG

 ค้นหา | หน้าแรก   
 
 
» หน้าแรก
» สวนกล้วยไม้แนวตั้งเชิงธุรกิจแม่โจ้
» vdo Smart สวนกล้วยไม้
» ข้อมูลผลการวิจัย
» กราฟแสดงข้อมูล
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแลระบบ
 
 
เกี่ยวกับโครงการ ประมวลภาพการดำเนินงานฯ
  1. โครงการวิจัย (ภาษาไทย) : การจัดการดูแลสวนกล้วยไม้แนวตั้งเชิงธุรกิจด้วยระบบอัจฉริยะ

    (ภาษาอังกฤษ) : "Smart vertical orchid garden management by Intelligence system."

 

  1. หัวหน้าโครงการวิจัย
            
           
    ชื่อ-สกุล  :   อาจารย์ ดร. ประนอม ยังคำมั่น


  2.         หน่วยงาน ที่อยู่ที่ติดต่อได้พร้อมโทรศัพท์และโทรสาร :  สาขาวิชาพืชสวน
                              คณะผลิตกรรมการเกษตร  มหาวิทยาลัยแม่โจ้
                              ต.หนองหาร  อ.สันทราย
                              จ.เชียงใหม่  50290
                              โทรศัพท์  0-5387-3652

                            
  1. ความสำคัญและที่มาของปัญหาที่ทำวิจัย

            เนื่องจากปัจจุบันผู้คนโดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองมีความต้องการที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเพื่อความผ่อนคลายในระหว่างการทำงานในสำนักงาน การพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน หรือออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด สิ่งที่หลีกหนีความต้องการไม่พ้นคือการได้อยู่กับธรรมชาติที่สวยงาม ความสงบ ความร่มรื่นและสบายใจ ดังนั้นการจัดสวนจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนให้มีความสุขในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้การจัดสวนส่วนมากจะเน้นรูปแบบแนวราบเนื่องจากมีพื้นที่เพียงพอ แต่ ณ ปัจจุบัน มีความจำกัดในด้านพื้นที่มาก ดังนั้นแนวทางการจัดสวนจึงเน้นการจัดในแนวตั้งเพื่อให้เกิดความสวยงามโดยไม่ต้องเปลืองพื้นที่ใช้สอย ซึ่งการจัดสวนแนวตั้งนี้สามารถทำได้ทุกพื้นที่ทั้งในและนอกอาคาร รวมทั้งสถานที่ต่างในปัจจุบัน เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม รีสอร์ท บ้านพัก คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น เพื่อต้องการที่จะนำธรรมชาติเข้ามาไว้ให้ใกล้ชิดกับคนมากที่สุดและเป็นจุดดึงดูดลูกค้าให้เกิดความรู้สึกได้พักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ

            การจัดสวนแนวตั้งเริ่มเป็นที่นิยมในไทยมาไม่นานทำให้ยังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้มีการจัดการดูแลที่เหมาะสมและมีอายุการใช้งานของสวนที่มาจากงานวิจัยของ ฐานิศและคณะ (มปป) กล่าวว่าผู้บริโภคมีความสนใจในการใช้บริการจัดสวนแนวตั้งแต่กังวลเรื่อง การดูแลต้นไม้ อยากให้มีการบริการหลังการขาย เนื่องจากลูกค้าไม่มีเวลาและไม่ความความรู้ในการดูแลสวนแนวตั้ง ดังนั้นการนำระบบอัจฉริยะมาใช้ในการควบคุมดูแลสวนหลังการติดตั้งไปแล้วจึงมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการจัดการดูแลสวนให้ลูกค้ามีความสะดวกสบาย มีความมั่นใจในการใช้บริการ รวมทั้งยังเป็นการสะดวกต่อการให้บริการหลังการขายของผู้ให้บริการจัดสวนที่สามารถทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวต่างๆของสภาพการปลูกเลี้ยงพืช เช่น ความเข้มแสง อุณหภูมิ ความชื้นในอากาศและในวัสดุปลูก ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ค่า EC ของสารละลายที่ให้แก่พืช    โดยใช้หลักการทำงานระบบ Monitor control and Data logger แบ่งเป็นส่วนการทำงานดังนี้ ส่วนที่ 1 วางระบบการให้น้ำและปุ๋ยแก่พืชด้วยระบบการควบคุมอัตโนมัติ ส่วนที่ 2 การติดตั้งเซนเซอร์ต่างๆเพื่อวัดค่าที่ต้องการบันทึก เช่น ความเข้มแสง อุณหภูมิ ความชื้นในอากาศและในวัสดุปลูก ค่าความเป็นกรดด่าง(pH) ค่า EC ของสารละลายที่ให้แก่พืช เป็นต้น ส่วนที่ 3 จัดเก็บข้อมูลค่าต่างๆที่บันทึกและมีการสรุปรายงานผลในรูปแบบตารางหรือกราฟ ส่วนที่ 4 ระบบเตือน Alert ในกรณีค่าที่ตรวจวัดสูง หรือ ต่ำ กว่าค่าที่กำหนด ให้เฝ้าระวังผ่านทางเครื่องมือสื่อสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น Smart phone เป็นต้น ซึ่งการแจ้งเตือนนี้จะช่วยให้ผู้บริการจัดสวนมีการแก้ปัญหาที่เร็วและตรงจุด นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลที่บันทึกไว้มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนพัฒนาระบบการจัดการดูแลพืชให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อการจัดการดูแลสวนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องระบบการให้น้ำ ปุ๋ย และแสงที่เหมาะสมแก่พืชต่อไป  


          กล้วยไม้หวายจะเป็นพืชต้นแบบที่นำมาใช้เพื่อศึกษาระบบการเจริญในอาคารเนื่องจากเป็นไม้ดอกเศรษฐกิจของประเทศที่ปลูกเพื่อตัดดอกและไม้กระถางสำหรับขายทั้งในและส่งจำหน่ายต่างประเทศ ส่วนมากไม้ที่ใช้ในการจัดสวนแนวตั้งจะเป็นไม้ใบประดับในอาคารส่วนมาก ส่วนการนำไม้ดอกมาใช้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องของแสงที่ไม่เพียงพอต่อการเจริญและการออกดอกของพืช ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงคาดหวังว่าการนำกล้วยไม้มาใช้เพื่อการจัดสวนในอาคารจะสามารถเพิ่มทางเลือกในการนำไม้ดอกมาใช้ ซึ่งการวิจัยครั้งนี้เลือกกล้วยไม้สกุลหวายมาทำการปลูกเพื่อศึกษา เนื่องจากเป็นไม้ที่ต้องการแสงที่ไม่มาก คือประมาณ 50% สามารถปลูกทนต่อสภาพการปลูกในอาคารได้ค่อนข้างนานประมาณ 2-3 เดือนในกรณีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม แต่จะไม่มีการออกดอกต่อเนื่องได้ (ครรชิต, 2550) ดังนั้น จึงคาดหวังว่าการให้แสงเพิ่มโดยใช้หลอดไฟส่องสว่างจะช่วยให้กล้วยไม้ออกดอกได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้กล้วยไม้หวายออกดอกง่ายไม่จำเป็นต้องกระตุ้นด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อการออกดอกและมีข้อมูลการปลูกเลี้ยงดูแลที่เพียงพอและชัดเจนแล้วในสภาพโรงเรือนปลูก ดังนั้นจึงคาดว่าการนำข้อมูลพื้นฐานที่มีอยู่แล้วนั้นมาเป็นตัวกำหนดช่วงปัจจัยต่างๆที่พืชต้องการมาควบคุมระหว่างการปลูกเลี้ยงจะเป็นการจัดการที่ง่าย ไม่ต้องศึกษาเพิ่มเติมในด้านปัจจัยปลูกเลี้ยง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาการเจริญและอายุการใช้งานกล้วยไม้หวายในสภาพปลูกเลี้ยงในอาคารและยังไม่มีข้อมูลการปลูกเลี้ยงในรูปแบบการจัดสวนแนวตั้ง ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงต้องการที่จะหาความชัดเจนในการเจริญและอายุการใช้งานของกล้วยไม้หวายเมื่อนำมาจัดสวนแนวตั้งในอาคาร ภายใต้การจัดระบบควบคุมการให้น้ำ ปุ๋ย และแสง อัตโนมัติด้วยระบบ Monitor control and Data logger
  2. วัตถุประสงค์

          เพื่อพัฒนาต้นแบบในการนำเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะมาใช้ในการจัดการดูแลสวนกล้วยไม้แนวตั้งที่มีประสิทธิภาพในเชิงธุรกิจ
        
           
  1. สถานที่ดำเนินโครงการ

         สาขาพืชสวนประดับและอาคารพืชศาสตร์และเทคโนโลยี คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้